top of page

เทคนิคการขับรถไม่ให้ปวดเมื่อยล้า บริเวณหลัง

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนอาจกลับบ้านไปเที่ยวพักผ่อนในเทศกาลวันหยุดยาว ด้วยการขับรถยนต์ส่วนตัวและในการเดินทางไกล มักพบอาการเมื่อยล้าจากการขับขี่อยู่เสมอ ในวันนี้เราจึงนำเสนอวิธีการนั่งขับขี่ไม่ให้เมื่อยหลังมาฝากกัน ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการขับขี่ทำงานในชีวิตประจำวันได้ด้วย 1. เริ่มที่ตำแหน่งของที่นั่งไม่ควรห่างหรือชิดจนเกินไป โดยให้ระยะเท้าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการเหยียบแป้นคันเร่ง และเบรก 2. เลื่อนตำแหน่งเบาะให้เข่าอยู่สูงกว่าสะโพก ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม รวมถึงทัศนะวิสัยในการขับรถที่ดี 3. ศรีษะควรชิดพนักพิง หรือห่างไม่เกิน 1” เพื่อป้องกันกล้ามเนื้อคอหดเกร็งทำงานหนัก และช่วยลดการบาดเจ็บของคอหากเกิดอุบัติเหตุ 4. เบาะพิงหลังควรมีเนินรับกับแผ่นหลังช่วงเอว ใสนรถที่มีตัวดันหลังควรปรับให้กระชับกับแป่นหลัง ถ้าไม่มีอาจใช้ผ้ารองแทนได้ 5. สำหรับการขึ้นลงรถ ควรเลี่ยงการเอี้ยวตัวหมุน แต่ควรหมุนสะโพกและตัวไปพร้อมกัน ในขณะที่ลงจากรถควรใช้มือในการช่วยพยุงตัวขึ้น กรณีขับรถเดินทางไกลเป็นเวลานาน ควรมีการพักและยืดหลัง เป็นระยะ โดยขณะจอดรถให้ปรับพิงเบาะเอนหลังเล็กน้อยเป็นระยะ จะช่วยลดความเครียดที่เกิดกับหลังได้ หรือออกจากรถมายืน ใช้มือทั้ง 2 จับเอว และแอ่นหลังช้าๆ ก็ได้

หากมีอาการปวดเมื่อยบริเวณหัวเข่า จากการยกเท้าออกจากแป้นคันเร่งมาเหยียบเบรกสลับไปมาบ่อยๆ ในสภาวะรถติด ก็อาจเหยียดขาตึงเผื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณหัวเข่าได้ด้วย

bottom of page